คุณเคยรู้สึกหมดไฟกับการหางานไหม? สมัครไปหลายที่แต่ก็เงียบ ไม่มีแม้แต่การเรียกสัมภาษณ์ หรือบางครั้งสัมภาษณ์แล้วก็ไม่ได้ไปต่อ หลายคนเจอสถานการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเริ่มสงสัยในตัวเองว่ามีอะไรผิดพลาด หรือโลกของการหางานมันเปลี่ยนไป?
ความจริงแล้ว วิธีที่เราหางานอาจเป็นปัญหา! หากการสมัครผ่านระบบเดิมไม่เวิร์ก ลองปรับกลยุทธ์ด้วย “Reverse Job Search” สิ! วิธีนี้เน้นให้บริษัทหาคุณเจอ แทนที่คุณต้องวิ่งหาโอกาสอยู่ฝ่ายเดียว
Reverse Job Search คืออะไร?
“Reverse Job Search” หรือการหางานแบบย้อนกลับ คือแนวคิดที่ให้ “คุณเป็นฝ่ายถูกค้นหา” แทนที่จะส่งเรซูเม่ไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ว่าบริษัทต้องการจริงหรือไม่ วิธีนี้จะเน้นการสร้างตัวตนที่โดดเด่นบนโลกออนไลน์ สื่อสารทักษะของคุณออกไปให้ชัดเจน เพื่อดึงดูดบริษัทที่ต้องการคนแบบคุณจริง ๆ
เริ่มต้นยังไง?
1. วางตำแหน่งตัวเอง (Personal Branding): ระบุให้ชัดว่าคุณเป็นใคร มีความเชี่ยวชาญด้านใด และต้องการทำงานแบบไหน เล่าเรื่องราวความสำเร็จ ความถนัด และเป้าหมายในอาชีพอย่างตรงไปตรงมา
2. อัปเดต LinkedIn ให้พร้อม: ปรับโปรไฟล์ให้ดึงดูด สะท้อนตัวตนที่แท้จริง พร้อมแสดงผลงาน ตัวอย่างโปรเจกต์ และรีวิวจากเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าเก่า
3. เขียนโพสต์อย่างมืออาชีพ: แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ หรือบทเรียนในสายงานของคุณอย่างสม่ำเสมอ เป็นการโชว์ความคิดและความสามารถแบบไม่ต้องพูดเอง
4. เข้าร่วม Community หรือกลุ่มสายอาชีพ: ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Facebook, Discord, หรือการเข้าร่วมสัมมนา Networking ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนในวงการรู้จักคุณ
ทำไมวิธีนี้ถึงได้ผล?
เพราะองค์กรสมัยใหม่เริ่มเปลี่ยนวิธีการหาคน พวกเขามองหา “คนที่ใช่” มากกว่า “คนที่สมัคร” เมื่อคุณมีตัวตนที่ชัดและน่าสนใจบนโลกออนไลน์ คุณจะกลายเป็นเป้าหมายของการค้นหาจากฝ่าย HR หรือเครือข่ายภายในองค์กร
ตัวอย่างความสำเร็จ
หลายคนได้งานดี ๆ จากโพสต์ที่เขียนขึ้นบน LinkedIn หรือจากการช่วยตอบคำถามในกลุ่มอาชีพ พวกเขาไม่ได้สมัครงานแม้แต่ครั้งเดียว แต่กลับมีคนเชิญชวนให้ไปสัมภาษณ์ เพราะ “โปรไฟล์พูดแทนเขา”
สรุป
อย่าเสียเวลาไปกับวิธีเดิม ๆ ที่ไม่เวิร์ก ลองเปลี่ยนจาก “สมัคร” เป็น “สร้างตัวตนให้คนมาหา” แทน วิธี Reverse Job Search ไม่ใช่เวทมนตร์ แต่คือการลงทุนในตัวคุณเองที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในระยะยาว
หากวันนี้คุณยังไม่ผ่านงานไหนเลย อาจถึงเวลาลองวิธีใหม่ที่เปลี่ยนเกมก็ได้!